ชาดก
คือ เรื่องราวของพระโพธิสัตว์ในชาติต่างๆ
ก่อนที่จะประสูติและตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในชาติสุดท้าย ในชั้นนี้จะได้เรียนชาดก
3 เรื่อง คือ สามเณรบัณฑิต วัณณุปถชาดกและสุวรรณสามชาดก
3 เรื่อง คือ สามเณรบัณฑิต วัณณุปถชาดกและสุวรรณสามชาดก
1. สามเณรบัณฑิต : การช่างสังเกต
สามเณรบัณฑิต เกิดในตระกูลปัฏฐากของพระสารีบุตร มารดาของท่านแพ้ท้องอยากจะถวายอาหารแต่พระสารีบุตรพร้อมทั้งพระภิกษุ
ประมาณ 500 รูป เมื่อได้กระทำตามนั้นแล้วอาการแพ้ท้องก็หายไป
ประมาณ 500 รูป เมื่อได้กระทำตามนั้นแล้วอาการแพ้ท้องก็หายไป
เมื่ออายุ 7 ปี ท่านบรรพชาเป็นสามเณรโดยมีพระสารีบุตรเป็นอุปัชฌาย์ หลังจากบวชเณรแล้วได้ไปบิณฑบาตกับพระสารีบุตร ระหว่าง
ทางเห็นคนชักน้ำจากเหมืองเกิดสงสัย จึงถามว่า “น้ำมีจิตใจหรือไม่” พระเถระตอบว่า “น้ำไม่มีจิตใจ” สามเณรจึงคิดว่า เมื่อคนสามารถชักน้ำ
ซึ่งไม่มีจิตใจไปสู่ที่ที่ตนเองต้องการได้ แต่เหตุใดจึงไม่สามารถบังคับจิตใจให้อยู่ในอำนาจได้
ทางเห็นคนชักน้ำจากเหมืองเกิดสงสัย จึงถามว่า “น้ำมีจิตใจหรือไม่” พระเถระตอบว่า “น้ำไม่มีจิตใจ” สามเณรจึงคิดว่า เมื่อคนสามารถชักน้ำ
ซึ่งไม่มีจิตใจไปสู่ที่ที่ตนเองต้องการได้ แต่เหตุใดจึงไม่สามารถบังคับจิตใจให้อยู่ในอำนาจได้
เดินต่อไปได้เห็นคนกำลังถากไม้ทำเกวียนอยู่ จึงถามว่า “ไม้นั้นมีจิตใจหรือไม่” เมื่อพระเถระตอบว่า “ไม้ไม่มีจิตใจ” สามเณรจึงคิดว่า
คนสามารถนำเอาท่อนไม้ที่ไม่มีจิตใจมาทำเป็นล้อได้ แต่ทำไมไม่สามารถบังคับจิตใจได้
คนสามารถนำเอาท่อนไม้ที่ไม่มีจิตใจมาทำเป็นล้อได้ แต่ทำไมไม่สามารถบังคับจิตใจได้
เดินต่อไปได้เห็นคนกำลังใช้ไฟลนลูกศรเพื่อจะดัดให้ตรง จึงถามว่า “ลูกศรนั้นมีจิตใจหรือไม่” เมื่อพระเถระตอบว่า “ลูกศรไม่มีจิตใจ”
สามเณรจึงคิดว่า คนสามารถดัดลูกศรให้ตรงได้ แต่ไม่สามารถบังคับจิตใจให้อยู่ในอำนาจได้
สามเณรจึงคิดว่า คนสามารถดัดลูกศรให้ตรงได้ แต่ไม่สามารถบังคับจิตใจให้อยู่ในอำนาจได้
ทันใดนั้น สามเณรได้เกิดความคิดที่จะปฏิบัติธรรมขึ้น สามเณรได้บำเพ็ญเพียรสมณธรรมและได้บรรลุพระอรหันต์ในเวลาต่อมา
2. วัณณุปถชาดก : ความเพียรกลางทะเลทราย
ในสมัยที่พระพุทธเจ้าประทับอยู่ที่วัดเซตวัน
เมืองสาวัตถีทรงทราบเรื่องที่พระสงฆ์รูปหนึ่งเกิดความท้อแท้ คิดว่าตนเองไม่มีบุญพอ
ที่จะบรรลุธรรมได้ จึงไม่ปฏิบัติธรรม พระพุทธเจ้าทรงเล่าถึงความพยายามของพระองค์ในอดีตชาติ เมื่อครั้งที่เกิดเป็นนายกองเกวียนว่า
ที่จะบรรลุธรรมได้ จึงไม่ปฏิบัติธรรม พระพุทธเจ้าทรงเล่าถึงความพยายามของพระองค์ในอดีตชาติ เมื่อครั้งที่เกิดเป็นนายกองเกวียนว่า
กาลครั้งหนึ่ง
ณ เมืองพาราณสี พระโพธิสัตว์ได้เกิดเป็นนายกองเกวียนต้องนำเกวียน 500 เล่ม
ออกเดินทางไปกับบริวารเพื่อค้าขาย
ยังต่างเมืองระหว่างทางต้องผ่านทะเลทรายที่แห้งแล้งทุรกันดาร ขบวนของพ่อค้าจะออกเดินทางได้เฉพาะกลางคืนเท่านั้น ส่วนในเวลา
กลางวันจะต้องหยุดพักผ่อนจนกระทั่งเหลืออีกเพียงวันเดียวก็จะถึงจุดหมายปลายทาง เหล่าบริวารต่างคิดว่าวันรุ่งขึ้นก็จะถึงที่หมายแล้ว ช่วง
หยุดพักจึงได้ช่วยกันทำอาหารและใช้น้ำจนหมดสิ้น
ยังต่างเมืองระหว่างทางต้องผ่านทะเลทรายที่แห้งแล้งทุรกันดาร ขบวนของพ่อค้าจะออกเดินทางได้เฉพาะกลางคืนเท่านั้น ส่วนในเวลา
กลางวันจะต้องหยุดพักผ่อนจนกระทั่งเหลืออีกเพียงวันเดียวก็จะถึงจุดหมายปลายทาง เหล่าบริวารต่างคิดว่าวันรุ่งขึ้นก็จะถึงที่หมายแล้ว ช่วง
หยุดพักจึงได้ช่วยกันทำอาหารและใช้น้ำจนหมดสิ้น
ครั้นตกค่ำก็ออกเดินทางต่อ
โดยมีผู้นำคอยดูดวงดาวบนท้องฟ้า
แต่ด้วยความอ่อนเพลียผู้นำทางเผลอหลับไป โคจึงเดินทางผิด
วกกลับมาที่เดิมบริวารทั้งหลายรู้สึกอ่อนล้าและหิวมาก น้ำสำหรับดื่มและปรุงอาหารก็ใช้ไปหมดแล้ว เพราะไม่คิดว่าจะหลงทางเช่นนี้ จึงพากัน
ท้อแท้หมดอาลัยไปตามๆกัน
วกกลับมาที่เดิมบริวารทั้งหลายรู้สึกอ่อนล้าและหิวมาก น้ำสำหรับดื่มและปรุงอาหารก็ใช้ไปหมดแล้ว เพราะไม่คิดว่าจะหลงทางเช่นนี้ จึงพากัน
ท้อแท้หมดอาลัยไปตามๆกัน
นายกองเกวียนเห็นดังนั้น จึงคิดว่า ถ้าตนเองละความเพียรเสียอีกคน หมู่คณะก็จะถึงแก่ความตายอย่างแน่นอน จึงออกเดินสำรวจ
ดูบริเวณรอบๆพบว่ามีหญ้ากอหนึ่งงอกขึ้นบนทรายก็คิดว่า หญ้างอกขึ้นมาได้จะต้องมีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่ข้างล่าง จึงกลับไปบอกบริวารให้
ช่วยกันขุดพื้นทรายใต้กอหญ้านั้นเมื่อขุดลึกลงไป 60 ศอก ก็ยังไม่พบน้ำ พบแต่แผ่นหินขวางอยู่ ทุกคนต่างก็ละความเพียรและไม่คิดหาหน
ทางอื่น นายกองเกวียนมิได้ท้อใจลองเอาหูแนบที่แผ่นหิน ก็ได้ยินเสียงน้ำไหลอยู่ข้างล่าง จึงบอกให้บริวารเอาค้อนทุบแผ่นหินจนแตก
ดูบริเวณรอบๆพบว่ามีหญ้ากอหนึ่งงอกขึ้นบนทรายก็คิดว่า หญ้างอกขึ้นมาได้จะต้องมีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่ข้างล่าง จึงกลับไปบอกบริวารให้
ช่วยกันขุดพื้นทรายใต้กอหญ้านั้นเมื่อขุดลึกลงไป 60 ศอก ก็ยังไม่พบน้ำ พบแต่แผ่นหินขวางอยู่ ทุกคนต่างก็ละความเพียรและไม่คิดหาหน
ทางอื่น นายกองเกวียนมิได้ท้อใจลองเอาหูแนบที่แผ่นหิน ก็ได้ยินเสียงน้ำไหลอยู่ข้างล่าง จึงบอกให้บริวารเอาค้อนทุบแผ่นหินจนแตก
ทันใดนั้นก็มีสายน้ำพุขึ้นมาทุกคนต่างดีใจที่มีน้ำให้ดื่มและปรุงอาหารรับประทาน เมื่อตกกลางคืนจึงออกเดินทางกันอีกครั้ง
และถึงที่หมายในวันรุ่งขึ้นอย่างราบรื่น
และถึงที่หมายในวันรุ่งขึ้นอย่างราบรื่น
3.
สุวัณณสามชาดก :
ความกตัญญูกตเวที
ในสมัยที่พระพุทธเจ้าประทับอยู่ที่วัดเซตวัน เมืองสาวัตถีทรงทราบเรื่องที่พระสงฆ์รูปหนึ่งบิณฑบาตเลี้ยงพ่อแม่ที่
ทุกข์ยากพระองค์ทรงสรรเสริญว่าดีแล้ว ในอดีตเราก็เคยเลี้ยงดูพ่อแม่เหมือนกัน แล้วได้ตรัสเล่าเรื่องเมื่อครั้งที่พระองค์เกิดเป็น
สุวัณณสามว่า
ทุกข์ยากพระองค์ทรงสรรเสริญว่าดีแล้ว ในอดีตเราก็เคยเลี้ยงดูพ่อแม่เหมือนกัน แล้วได้ตรัสเล่าเรื่องเมื่อครั้งที่พระองค์เกิดเป็น
สุวัณณสามว่า
กาลครั้งหนึ่ง
ณ ที่ไม่ไกลจากเมืองพาราณสี มีดาบสสองสามีภรรยาอาศัยอยู่ในอาศรมกลางป่าหิมพานต์
มีบุตรชายคน
หนึ่งชื่อ สุวัณณสาม เป็นเด็กที่มีเมตตากรุณาและเป็นที่รักใคร่ของสัตว์ทั้งหลายต่อมาดาบสทั้งสองถูกงูพ่นพิษเข้าตา ทำให้ตาบอด
ทั้งสองข้างสุวัณณสามจึงต้องทำหน้าที่คอยดูแลปรนนิบัติรับใช้โดยคอยจัดหาน้ำดื่ม น้ำใช้ และผลไม้ในป่าเลี้ยงดูทุกวัน
หนึ่งชื่อ สุวัณณสาม เป็นเด็กที่มีเมตตากรุณาและเป็นที่รักใคร่ของสัตว์ทั้งหลายต่อมาดาบสทั้งสองถูกงูพ่นพิษเข้าตา ทำให้ตาบอด
ทั้งสองข้างสุวัณณสามจึงต้องทำหน้าที่คอยดูแลปรนนิบัติรับใช้โดยคอยจัดหาน้ำดื่ม น้ำใช้ และผลไม้ในป่าเลี้ยงดูทุกวัน
ในวันหนึ่งเจ้าเมืองพาราณสีได้เสด็จล่าสัตว์ในป่าหิมพานต์
และได้ยิงลูกศรอาบยาพิษถูกสุวัณณสามจนเสียชีวิต ก่อนเสีย
ชีวิตสุวัณณสามได้บอกกับเจ้าเมืองพาราณสีว่า ตนเองมีพ่อแม่ตาบอดที่จะต้องเลี้ยงดู ถ้าตนเองตายก็เป็นห่วงว่าจะไม่มีใครคอย
เลี้ยงดูพ่อแม่
ชีวิตสุวัณณสามได้บอกกับเจ้าเมืองพาราณสีว่า ตนเองมีพ่อแม่ตาบอดที่จะต้องเลี้ยงดู ถ้าตนเองตายก็เป็นห่วงว่าจะไม่มีใครคอย
เลี้ยงดูพ่อแม่
เจ้าเมืองพาราณสีเมื่อได้ฟังและเห็นถึงความกตัญญูกตเวทีของสุวัณณสามก็รู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงรับปาก
ว่าจะเลี้ยงดูพ่อแม่ของสุวัณณสามให้
ว่าจะเลี้ยงดูพ่อแม่ของสุวัณณสามให้
ฝ่ายดาบสเมื่อรู้สึกว่าสุวรรณสามเสียชีวิตก็ได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า
สุวัณณสามเป็นเด็กดี มีความเมตตากรุณา และมีความ
กตัญญูกตเวทีต่อบิดามารดา ขอให้ความดีนั้นช่วยบันดาลให้ยาพิษในร่างกายของสุวัณณสามหายไปและฟื้นคืนชีวิตด้วยแรงอธิษฐาน
ดังกล่าวทำให้สุวัณณสามฟื้นคืนชีวิต ส่วนดาบสทั้งสองก็หายจากตาบอดแล้วอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
กตัญญูกตเวทีต่อบิดามารดา ขอให้ความดีนั้นช่วยบันดาลให้ยาพิษในร่างกายของสุวัณณสามหายไปและฟื้นคืนชีวิตด้วยแรงอธิษฐาน
ดังกล่าวทำให้สุวัณณสามฟื้นคืนชีวิต ส่วนดาบสทั้งสองก็หายจากตาบอดแล้วอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
บทสรุป
พุทธประวัติ
คือ ประวัติของพระพุทธเจ้า
ศาสดาของพระพุทธศาสนา
การศึกษาพุทธประวัติตั้งแต่ประสูติ ตรัสรู้
และปรินิพพานทำให้ได้แบบอย่างในการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง
และปรินิพพานทำให้ได้แบบอย่างในการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง
ชาดกเป็นเรื่องราวของพระโพธิสัตว์ในชาติต่างๆ ก่อนที่พระองค์จะประสูติและตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในชาติสุดท้าย
ชาดกแต่ละเรื่องให้ข้อคิดที่ต่างกัน เช่น สามเณรบัณฑิต ให้ข้อคิดเกี่ยวกับการช่างสังเกต วัณณุปถชาดก ให้ข้อคิดเกี่ยวกับความเพียร
และสุวรรณสามชาดกให้ข้อคิดเกี่ยวกับความกตัญญูกตเวที
ชาดกแต่ละเรื่องให้ข้อคิดที่ต่างกัน เช่น สามเณรบัณฑิต ให้ข้อคิดเกี่ยวกับการช่างสังเกต วัณณุปถชาดก ให้ข้อคิดเกี่ยวกับความเพียร
และสุวรรณสามชาดกให้ข้อคิดเกี่ยวกับความกตัญญูกตเวที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น